ฝึกเครื่องดนตรี จะพัฒนาความสามารถดีเจ .. โปรดิวเซอร์..คอนโทรลเลอร์ริสท์ ได้จริงหรือไม่!?!
สำหรับแนวดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันนั้น..จะเน้นรู้เฉพาะในพื้นฐานทั่วๆไปของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นเท่านั้น..ซึ่งจะต่างกับนักดนตรีคลาสสิกและแนวดนตรีมาตราฐานก่อนๆ(แจ๊ส/ร๊อก)ที่จะต้องลงลึกในอุปกรณ์แต่ละตัวและฝึกเป็นปีๆ.. นั้นเพราะสายอิเล็กทรอนิกส์นี้ มักจะมีอุปกรณ์ช่วยพิเศษเช่น Sequencers หรือ Drum Machines ซึ่งจะมีเสียงสังเคราะห์(ที่ค่อนข้างเป๊ะอยู่แล้ว) มาสร้างสรรค์งานดนตรีแบบได้ง่ายและค่อนข้างสำเร็จรูปนั้นเอง!! อย่างไรก็ตาม โปรดิวเซอร์ที่ประสบความสำเร็จ หรือกระทั้งดีเจดังๆหลายคนนั้น เชื่อมั้ยว่าส่วนใหญ่เขาจะมีแบคกราวน์เป็นนักดนตรีทั้งนั้น (Daftpunk.. Skrillex ..Zedd..Avicii และ คนอื่นๆอีกเพียบ) คำถามคือ การเล่นดนตรีเป็นอยู่แล้วมันเกี่ยวกันจริงมั้ย!?! วันนี้เรามาลองวิเคราะห์กันดูครับ ว่าการที่คุณเทพในเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นนั้นจะเป็นประโยชน์สำหรับ อาชีพดีเจ อาชีพโปรดิวเซอร์ และนักคอนโทรลเลอร์ริสท์ หรือไม่และอย่างไร!!!
ประเภทเครื่องดนตรี : กลอง
ระยะเวลาในการหัดเริ่มนั้น ต้องบอกเลยว่าคุณจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ เพื่อที่จะเริ่มให้ร่างกายจังหวะและรูปแบบการตีให้เป็นอัตโนมัติได้... จะว่าไปแล้วกลองเปรียบเสมือน “ราก” ของจังหวะ(Rhythm)ทั้งหลายนั้นเอง..ถือเป็นเครื่องดนตรีที่ยากชิ้นหนึ่ง ที่จะก้าวขึ้นเป็นมือกลองชั้นเลิศได้ ความยากของกลองนั้นไม่ใช่แค่เพียง การแยกประสาทควบคุม มือซ้าย มือขวา และยังข้อเท้าด้วยนั้น ยังรวมถึงการทุ่มสมาธิ และโฟกัสไปในดนตรีนั้นๆด้วย ในการแสดงในแต่ละครั้ง..โดยธรรมชาติของมือกลองแล้ว พวกเขาจะค้นหา วิธีที่ทำให้เสียงของกลองนั้น ลงตัวได้อย่างพอดี..เว้นระยะในแต่ละช่วงของการตีให้พอเหมาะ ร้อยเรียงจนเกิดเป็นท่วงทำนองขึ้นมา การสร้างไลน์กลองจึงถือเป็นเรื่องที่โหดมากๆ ในการ Arrange ดนต รี และการ Mixing เพลงนั้นเองครับ
ประโยชน์สำหรับดีเจ
สำหรับมือกลองนั้น..จะต้องจับจังหวะของโครงสร้างทั้งหมดในเพลงๆนั้นให้ดี เพราะนอกจากเป็นการส่งต่อในแต่ละท่อนเพลงแล้ว คุณจะต้องไม่ทำให้จังหวะหลุดด้วย..ต้องดูว่าช่วงไหนท่อน Breakdown จะมา หรือจุดนี้ Chorus จะนานรึเปล่า..และจุดนี้เองถือว่าได้เปรียบสำหรับมือกลองที่จะมาเป็นดีเจ..แต่สกิลเหล่านี้ ไม่ใช่จะได้มาโดยง่าย คุณจะต้องใช้เวลาพอสมควรครับ เพราะฉนั้น..ถ้าใครมีเป้าหมายหลักคือดีเจละก็..การหันมาฝึก กลองอาจจะไม่ค่อยคุ้มสักเท่าไหร่ครับ
ประโยชน์สำหรับโปรดิวเซอร์
ดนตรีแดนซ์ทั้งหลาย มันเกี่ยวกับจังหวะริทึ่มทั้งนั้นครับ!! แต่อะไรหล่ะ..ที่จะแยกระหว่างจังหวะที่โคตรดี ออกมาจาก ซาวด์กลองทั้งหลายเหล่านั้นได้ และต้องอาศัยความปราดเปรื่องขนาดไหน ที่จะควานหาจังหวะริทึ่มที่เปี่ยมด้วยพลังออกมาได้!?! ...มาถึงตรงนี้มือกลองที่ผลันตัวมาเป็นนักทำเพลง ก็ถึงเวลายิ้มออกมาได้สักทีครับ..คุณจะเขียนไลน์กลอง ได้พริ้วไม่ต่างจากการตีด้วยมือคนเลยทีเดียว แถมยังเข้าใจ จุดเล็กจุดน้อย อันซับซ้อนของ ความลื่นไหล(Groove)ในจังหวะนั้นๆด้วย!!...แต่อย่างไรก็ตาม โปรดิวเซอร์หน้าใหม่นั้น จำเป็นมากๆที่ต้องเรียนรู้จังหวะกลอง ขั้นพื้นฐานครับ (พลาดไม่ได้จริงๆ)
ประโยชน์สำหรับ คอนโทรลเลอร์ริสท์ (นักดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้คอนโทรลเลอร์ในการแสดง)
ต้องบอกว่า เราเห็นมือกลองกลายมาเป็น มือคอนโทรลเลอร์ริสท์ซะเยอะเลยครับ!! แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีปัญหาเดียวกันก็คือ ต้องเปลี่ยนมาฝึกใช้ “นิ้ว” แทน “ไม้กลอง”นั้นเอง!! สำหรับไม้กลองนั้นถูกสร้างมาเพื่อจะให้เล่นกับกลองได้เป็นอย่างดี ทั้งความเร็ว..ความคล่องตัว ซึ่งถือว่าโหดมากถ้าเปลี่ยนมา ใช้นิ้วกดแพด(Pad) แถมยังต้านกฎฟิสิกที่คุ้นเคยของมือกลองไปเต็มๆ...สรุปเลยกลอง ยังไม่ใช่สำหรับ มือคอนโทรลเลอร์ริสท์ เพราะเครื่องดนตรีที่เรียกว่าใช่ที่สุดสำหรับมือคอนโทรลเลอร์ริสท์นั้นคือ...(อุปกรณ์ต่อมาที่จะกล่าวถึงนั้นเอง)
ประเภทเครื่องดนตรี : เปียโน
ระยะเวลาในการฝึกฝน..อย่างน้อยเราต้องเรียน 3-6คลาส เพื่อที่จะได้รู้จักการกดคอร์ด(Chord) แบบเบสิก และควรเรียนรู้ทฤษฎีดนตรีเบื้องต้นด้วย..สำหรับเปียโนนั้น ถือเป็นเครื่องดนตรีที่ยอดเยี่ยมที่สุดชิ้นหนึ่ง ..และเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดในการเขียนเพลงและสร้างชิ้นงานดนตรี.. อย่างแรกที่เราต้องรู้คือ เครื่องดนตรีชิ้นนี้สามารถสร้างจังหวะที่ต่อเนื่องได้..ด้วยการกดเบส ด้วยมือซ้าย..และ สร้างคอร์ดด้วยมือขวา ร่วมประสานเป็นเมโลดี้จากปลายนิ้วของนักเปียโนนั้นเอง..เรียกได้ว่าหัวใจหลักของทั้งเพลง สามารถสร้างมาได้ทั้งหมดด้วยคนๆเดียวครับ!! ถือเป็นเครื่องดนตรีพิมพ์นิยมของนักประพันธ์เพลงทั้งหลายครับ
ประโยชน์สำหรับดีเจ
การรู้จัก “คีย์” และ “โทน” จะทำให้คุณยกระดับสกิลดีเจได้ต่างจากคนอื่น มากมายเลยทีเดียว...ถึงแม้ตอนเริ่มเล่นดีเจใหม่ๆจะไม่จำเป็น (เพราะเทคนิค “มิกซ์เพลงระหว่างคีย์” จะช่วยได้มากก็จริง)..แต่การที่เราเข้าใจในทฤษฎีดนตรีอย่างแท้จริงนั้น...จะทำให้การเล่นดีเจของเราแน่นขึ้นครับ..จริงๆแล้ว อย่างน้อยๆไม่ว่าดีเจคนไหน มาเรียนทฤษฎีดนตรีบนพื้นฐานความเข้าใจของเปียโน เพิ่มได้นะครับ ลงทุนเรียนอย่างน้อย 20-40 ชั่วโมง นับว่าคุ้มค่าจริงๆ
ประโยชน์สำหรับโปรดิวเซอร์
การ “Chop” เปียโนขั้นพื้นฐานนั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ สไตล์การโปรดิวซ์แบบสมัยใหม่..คีย์บอร์ดสำหรับทำเพลงนั้นถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเรคคอร์ท สำหรับการสร้าง คอร์ดและไลน์ เมโลดี้..ยิ่งถ้าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญเปียโนแล้วละก็...จะเป็นข้อได้เปรียบมากสำหรับโปรดิวเซอร์มือใหม่ และยังเปลี่ยนให้เรากลายเป็นคนเขียนเพลงด้วย..ลองลงเรียนคอร์สเปียโนดูสักสองสามคอร์สสิครับ เราลองว่าภายในไม่กี่เดือน คุณได้เห็นผลทันตาแน่นอน
ประโยชน์สำหรับ คอนโทรลเลอร์ริสท์
ถ้าใครเคยดูคลิปของ Riccardo Betti ที่เป็นเซียน Drum Trigger(หรือ Finger Drumming) ก็อาจจะแอบคิดว่าลีลาการใช้นิ้วกดแพดพร้ิวขนาดนี้ เป็นนักเปียโนรึเปล่า?? ขอบอกไว้เลยว่า “ใช่”ครับ!! ถ้าถามว่าเครื่องดนตรีอะไรที่จะฝึกคุณให้ใช้นิ้วได้คล่องขนาดนี้ละ? ก็เจ้าเปียโนเนี้ยแหล่ะเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด ..สำหรับใครเป็นนักเปียโนแล้วจะผลันตัวมาเป็นมือคอนโทรลเลอร์ลิสท์ (เอาไว้สร้างซาวด์อิเล็กทรอนิกส์ให้กับวงดนตรีสด หรือจะโชว์ลีลา Launch Pad หรือกระทั่งรั่วนิ้ว..กด..จิ้ม..เคาะกับ Drum Trigger) ก็ต้องบอกไว้เลยว่า..คุณมาถูกทางแล้วครับ!!
ประเภทเครื่องดนตรี : กีต้าร์
กับกีต้าร์นั้น ถ้าคุณซ้อมหนักๆ อาจจะตีคอร์ดได้เก่งกาจ ในเวลาไม่กี่เดือนก็ได้.. ซึ่งถือว่ากำลังดี สำหรับคนที่จะเป็นนักเขียนเพลง.. แต่ถ้าจะอัพ สกิลให้เป็นมือกีต้าร์ตัวฉกาจ ก็อาจจะใช้เวลาเป็นปีๆและนิ้วคุณจะปริแตก ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน!!.. กีตาร์นั้นเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่มีความคล่องตัวสูงมาก แถมยังเป็นรากฐานของโมเดิร์นมิวสิกหลากหลายแนว..โดยเฉพาะแนว อิเล็กทรอนิกป๊อป สำหรับมือกีต้าร์แล้วการด้นสดแบบ Imprivisation ถือเป็นเรื่องทำไม่ยาก ถ้าครั้งหนึ่งคุณเคยเรียนรู้ "เบสิกคอร์ดและสเกล" มาแล้ว..แถมถ้าเป็นโปรดิวเซอร์ทำเพลง กีต้าร์ก็ถือว่าเหมาะมากๆในการใช้คิดไอเดียเพลงใหม่..ยิ่งถ้าเป็นคนเขียนเพลง กีต้าร์ก็ได้รับความนิยมพอๆกับเปียโนเลยล่ะครับ
ประโยชน์สำหรับดีเจ
ถ้าคุณเป็นเซียนกีต้าร์อยู่แล้ว..ก็อาจจะช่วยได้บ้างครับ แบบความรู้พื้นฐานในเรื่องดนตรี( แต่จริงๆแล้ว เล่นเครื่องดนตรีชิ้นไหนก็ได้ความรู้พื้นฐานเหมือนกัน) คือเอาจริง ประโยชน์จะมีแค่สำหรับดีเจที่นิยมชมชอบในแนวร๊อค..โฟล์ก(ซึ่งก็ถือเป็นดีเจแบบจำกัดแนวเล่น)... แต่ก็อาจจะใช้กีต้าร์ในการแสดงดีเจได้นะครับ ถ้าแบบเล่นดีเจไป หยิบกีต้าร์ขึ้นมาโซโลบ้าง...ก็ถือว่าแหวกดีครับ
ประโยชน์สำหรับโปรดิวเซอร์
ด้วยเหตุผลที่ว่า “มือกีตาร์โซโล” มันเป็นอะไรที่เท่และนิยมกันมาก..การปรับแต่งเสียงก็ยังไม่ยากด้วย..ยิ่งถ้าคุณเรียนรู้เกี่ยวกับ สเกลบันไดเสียง 5ตัวโน๊ต อย่าง Pentatonic Scale คุณก็จะสามารถเขียนเมโลดี้ได้โดยง่ายโดยใช้เวลาแค่ไม่กี่วันเท่านั้น..และอีกหนึ่ง Side Effect ของคนเล่นกีต้าร์ก็คือ มักจะเรียนรู้การเล่นเบสควบคู่กันไปนั้นเอง..จุดนี้ถือเป็นเรื่องดีสำหรับ โปรดิวเซอร์ในแนวเพลง อิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ เพราะการใช้เบสอย่างชาญฉลาดจะส่งผลต่อมิติของเพลง เป็นอย่างมากทีเดียว!
ประโยชน์สำหรับ คอนโทรลเลอร์ริสท์
หลักๆเลย ที่นักคอนโทรลเลอร์ทั้งหลาย จะได้รับจากการเป็นมือกีต้าร์ที่ดี..นั้นก็คือ ได้ฝึกใช้มือข้างที่ไม่ถนัดด้วยนั้นเอง (เช่นคนถนัดขวาคือ..จะใช้มือสายกด มือขวาดีด)...ส่วนใหญ่คนถนัดขวา ที่ไม่ได้เล่นเครื่องดนตรีมาก่อน เวลาใช้คอนโทรลเลอร์ในการสร้างเสียงเพลงนั้น มักจะใช้มือซ้าย ได้อย่างลำบากยากเย็น ในการเล่นอุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ เช่น Launch Pad และ Push หรือกระทั้งการใช้คอนโทรลเลอร์กดสไตล์ Drum Trigger นั้น ถ้าลองมาฝึกกีต้าร์ดูสักครั้ง จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้แน่นอนครับ(เราจะคล่องแคล่วทั้งสองมือ)
ประเภทเครื่องดนตรี : ไมค์และการร้องเพลง
สิ่งนี้อาจจะเป็นหนทางใหม่ ที่เริ่มต้นได้อย่างไม่ยากเย็นมาก..การลงเรียนคลาสร้องเพลงเพียงแค่ไม่กี่ครั้งอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมก็เป็นได้ครับ(คุณไม่ต้องถึงขนาดร้องชนะ Bruno Mars หรอกครับ) ที่จะพูดก็คือ..ไม่ว่าใครที่เรียนรู้เรื่องการร้องและออกเสียงนั้น เขาจะเข้าใจเรื่อง ระดับเสียง(Pitch) ได้อย่างรวดเร็วนั้นเอง!! ...ถ้าจะให้เปรียบเปรยละก็ การร้องเพลง ถือเป็นเครื่องดนตรีที่พกพาได้ง่ายและคล่องตัวที่สุดในโลก..แค่อาศัยปากเรา กับสมุดโน๊ตพร้อมดินสอสักแท่ง..และยิ่งสมัยนี้แล้ว แค่ซอฟท์แวร์ Ableton ตัวเดียวกับฟังชั่น Audio to Midi แค่สร้างไลน์ร้อง และ Convert มันลงใน Synth ได้ด้วยการคลิ๊กเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!!
เชื่อมั้ยว่า เพลงแดนซ์ฮิตๆส่วนใหญ่นั้น..บางส่วนที่ประกอบในเพลงกับมาจากโปรดิวเซอร์หน้าใหม่ๆ ประสบการณ์น้อยทั้งนั้น..ซึ่งอาศัยเพียง โปรแกรม Auto Tune และชั้นตอนในซอฟแวร์ทำเพลงอีกนิดหน่อย..เท่านี้ไม่ว่าใครก็ร้องเพลงได้แล้ว เพราะเสียงร้องสำหรับอีดีเอ็ม อาจจะไม่ได้เน้นที่ความสมบูรณ์แบบของเสียง แต่อยู่ที่การเล่นกับความรู้สึกของคนมากกว่า..เพราะฉนั้นวัตถุดิบเห่ยๆ อาจจะกลายมาสุดยอดได้เช่นกันครับ
ส่วนประโยชน์อื่นๆที่ได้รับการเรียนคลาสร้องเพลงก็คือ คุณจะรู้จักกับเทคนิคการใช้จังหวะหายใจ...ส่งเสริมเรื่องความเชื่อมั่นของคุณ..แถมยังส่งให้การพูดการจาธรรมดาๆ มีพลังมากขึ้นด้วย!!
ประโยชน์สำหรับดีเจ
จริงแล้วมีหลากหลาย ดีเจที่มักจะบันทึกเสียงของตัวเอง ลงในเซทดีเจของพวกเขาด้วย!! อันนี้ถือเป็นวิธีง่ายๆแต่ทรงพลังวิธีหนึ่ง ที่จะทำให้การมิกซ์ธรรมดาๆ กลายเป็น การแสดงโชว์สุดพิเศษได้เลย!!.. ตัวอย่างเช่น “Collete” เฮาส์ดีเจที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ดังโดยการใช้เสียงของเธอในการสร้าง เซทดีเจและสร้างสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา
ประโยชน์สำหรับโปรดิวเซอร์
วิธีง่ายๆในการ เอาไอเดียออกมาจากหัว คือการร้องออกมานั้นเอง..จะเปลี่ยนจินตนาการออกมาเป็นเสียงจริงๆได้ทันที่ ไม่ว่าจะร้องหรือจะฮัมจังหวะก็ตาม
ประโยชน์สำหรับ คอนโทรลเลอร์ริสท์
ลองดูจาก Zakir นักดรัมฟิงเกอร์ หรือ Drum Trigger ที่เก่งอันดับต้นๆของโลก..เขาเคยบอกว่า การใช้เสียงของเรา คือการตีกลองที่ยอดเยี่ยมที่สุด และโอกาสอันหลากหลายในการ Stretching Vocal Chords ก็ถือเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับขยาย Rhythmic Voiceของคุณเช่นกัน
และสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันกับเครื่องดนตรีก็คือ การเรียนรู้ ทฤษฎีดนตรีนั้นเอง!!... การเรียนรู้ทฤษฎีดนตรีนั้น ไม่ใช่แค่จะทำให้คุณการเป็นนักแต่งเพลง..โปรดิวเซอร์..และคนรีมิกซ์เพลงที่ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณช่วยตัวเองได้เต็มที่มากขึ้น โดยพึ่งพาซอฟแวร์น้อยลงนั้นเองครับ
---- ข้อมูลจาก Djtechtools.com เรียบเรียงโดย Choco Beat ----