โปรดิวเซอร์ทำเพลงภายใต้“หน้ากากหนู”คนนี้...คุณรู้จักเขาดีพอรึยัง??

“ผมไม่เคยใช้แผ่น CD อะไรพวกนั้น..เพราะนี่มันปาร์ตี้ที่ว่ากันด้วยเทคโนโลยี่ล้วนๆน้องเอ๋ย!! และไอ้คนอย่างผมนี่มันประเภทมีความพยายามและมีความตั้งใจสูงมากกว่าคนอื่นเค้านัก!!..เพราะไหนๆคนก็อยากมาดู Deadmau5อยู่แล้ว ผมก็อยากโชว์ดนตรีในแบบฉบับของ Deadmau5 ให้พวกเขาได้ฟังกันยังไงล่ะ!!” คำพูดอย่างตรงไปตรงมาจากปากของ Joel Zimmerman หรือที่เรารู้จักเขาในนามของ Deadmau5 คนนี้..ช่างเป็นตัวของตัวเองเสียจริงๆ..วันนี้ผมขอถือโอกาส พาเพื่อนๆไปรู้จักตัวเขาให้มากขึ้นกันครับ ..แล้วคุณจะเห็นว่าเป็นเส้นทางสายดนตรีอิเล็กทรอนิกที่ล้ำกว่าชาวบ้านจริงๆ!!

คำนำ

เจ้าของรางวัล Juno Award และถูกเสนอเข้าชิง Grammy Award อย่างนับไม่ถ้วนในสาขาศิลปินอิเล็กทรอนิกคนนี้.. ผู้ซึ่งไม่เคยชอบให้ใครเรียกเขาว่า “ดีเจ”...คนที่ใครก็ไม่คาดคิดว่า ปรากฎการ Dance Music ที่โตรอนโต้ในตอนนั้น จะสร้างชื่อเสียงเขาในฐานะ Deadmau5 เป็นอย่างมากและนำไปสู่ชื่อเสียงที่ทั่วโลกยอมรับ ...สิ่งที่จะบรรยายเขาคนนี้นั้นไม่มีอะไรมากไปกว่า "ความอัฉริยะด้านเทคโนโลยี่ดนตรี ที่เฮียแกบรรจงใส่ลงไปในไลฟ์โชว์ของตัวเอง!!" (หมวกหนูซุปเปอร์ไฮเทค ..ฉากอลังการ.. เทคนิคMapping ..เทคนิคแสง...ที่ยิ่งกว่าคือทุกส่ิงที่พูดมาสัมพันธ์กับเสียงดนตรีที่เขาแสดง)

เด็กเนิร์ดริมน้ำตกไนแอการ่า ผู้คลั่งไคล้ Chiptune!!

Joel Thomas Zimmerman เกิดวันที่ 5 มกราคม 1981(34ปี) ณ เมืองโตรอนโต้ ประเทศแคนนาดา(บ้านเกิดสุดชิล อยู่ในOntario แถบน้ำตก Niagara Falls)..เฮียแกฉายแววเนิร์ดมาตั้งแต่เด็ก โดยชอบงัดแงะอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ และ อิเล็กทรอนิก เป็นพิเศษ!!.. พออายุได้ 15ปี เด็กน้อยZimmerman สนใจในการประดิษฐ์ Chiptune เป็นอย่างมาก โดยจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่แกชอบประกอบเนี้ยแหละบวกกับเครื่องเกมส์คอนโซลยุคแรกๆ.. จากนั้นพอเข้าสู่ช่วงอายุ 18ปี ก็หันมาฟังเพลงตามยุคสมัยซึ่งตอนนั้นแกเอนเอียงไปทาง nu metal (ประมาณวง Korn..Slipknot..Limp Bizkit) ซึ่งช่วงนั้นวงที่เฮียแกสนใจที่สุดคือ Marilyn Mason ที่นำเอาอิเล็กทรอนิกซาวน์ มาใส่ในดนตรีด้วยนั้นเอง จากนั้นเขาจึงจับกลุ่มกับเพื่อนและทำวงสุดแนวแบบ Rap Metal ออกอัลบั้มชื่อ Methods Of Mayhem ต่อมาอีกสิบปีให้หลังทั้งกลุ่มก็ยังเป็นเพื่อนกันและทจอบงานร่วมกันตลอด แถมยังออก 2ซิงเกิ้ล แนว Electro Huse เพลง “Chicken” และ “ Redic” ภายใต้ชื่อวง W.T.F.?

Chiptune หรือ Chip Music หรืออีกชื่อคือ 8-Bit Music เป็นการทำสร้างเสียง Synth ในดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยชิพคอมพิวเตอร์และเกมส์คอนโซลยุคเก่า มาประกอบและต่อพ่วงกัน สำหรับสร้างงานดนตรี

ทำไงได้เมื่อคลั่งทั้ง อิเล็กทรอนิก และ มิวสิก!!

ในช่วงเวลาที่เดินสายในแวดวง Metal นั้นเอง Zimmerman ได้มีส่วนร่วมกับทีม Dance Music Radio ที่บ้านเกิดแถวน้ำตกไนแอการ่าโดยมีรายการชื่อว่า“The Party Revolution” ซึ่งเป็นงานค่าตัวถูกที่จัดขึ้น โดยร้านขายเทปขายซีดีย่านนั้น “ถ้าย้อนไปตอนนั้น ด้วยความล้ำหน้าเกินของผม!!ในดนตรี Dance Music จึงถูกล้อเลียนว่าเหมือน Babylon Zoo(นักร้องล้ำๆหลุดๆจากอังกฤษ)” เขาพูดพร้อมหัวเราะ.. งานของเขาตอนนั้นถูกเรียกว่า “เจ้าหนูสมองกล” หรืออีกนัยหนึ่งคือ เขาเป็นคนเดียวที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็น “พวกนั้นอะน่ะ..มัวแต่สนใจแค่ เทิร์นเทเบิ้ลสองตัวบนโต๊ะ เท่านั้นแหล่ะ ถ้าจะมีอะไรเกี่ยวกับคอมนั้นก็คือการ เบิรน์ซีดีส่งผลงานให้เรดิโอสเตชั่นเท่านั้น!!” เขาอธิบาย “ถ้าเรื่องเทคโนโลยี่..ผมแซงหน้าพวกเขาตลอดแหละ..ผมเรียนรู้เกี่ยวกับ Digital Audio และเรียนรู้การทำเพลงด้วยคอมพิวเตอร์..และเทคนิคการ Editing ทั้งหลาย..แม้เรื่องเล็กน้อยๆของเทคโนโลยี่ ที่มีต่อการทำเพลงทั้งหลาย ผมไม่เคยพลาดเลย..ในขณะที่พวกอื่นๆ ทำเป็นปู่ไดโนเสาร์ ที่ยึดติดกับ Turntable" เขากล่าว

Babylon Zoo วงจากอังกฤษที่ฟอร์มวงกันในปี 1992 ซึ่งร้องนำโดย Jas Mann(ในรูป) เป็นวงที่เน้นไปทางล้ำ(ในยุคนั้นนะครับ)

กระทั่ง "ซอฟแวร์ทำเพลง" ก็ยังเคยออกแบบมาแล้ว!!

Zimmerman ยังคงสนุกกับการเป็น “เจ้าหนูสมองกล”..ทั้งเลี้ยงชีพและเก็บประสบการณ์ ไปเรื่อยๆเกี่ยวกับดนตรีอิเล็กทรอนิก.. แต่ตอนนั้นยังไม่ดัง เฮียแกก็ไส้แห้งกับเค้าเหมือนกัน.. แต่ดีที่ว่าเคยลงเรียนเอก Animation และ Web Designer เลยมีอีกอาชีพเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ด้วย จากนั้นเพราะความที่มีใจรักทางด้านคอมพิวเตอร์ด้วย เขากับ Steve Duda นักโปรแกรมและซาว์น เอนจิเนียจากอเมริกา ..ร่วมกันออกแบบโปรแกรมสำหรับทำเพลงกันออกมาในช่วงปี 2006-2007 โดยในปีหลัง ได้ทำงานภายใต้ Belgian Company บริษัทที่อยู่เบื้องหลังโปรแกรมดังอย่าง Frity Loops (FL Studio) จากนั้นได้มีโอกาสออกแบบโปรแกรมบนไอโฟนอีกด้วย (แม้จะไม่ค่อยฮิตมากก็ตาม)

Deadmau5 เกือบจะกลายเป็นวง Duo ซะแล้ว!!

ในยุคต้นๆของ 2000s Zimmerman พยายามผลักดันให้มีการใช้คอมพิวเตอร์ซอฟแวร์ใน Studio Recording ในบ้านเกิดอย่างโตรอนโต แต่เขากลับถูกปฎิเสธจากหลายๆที่ในการทำเช่นนั้น มีเพียงแค่สตูดิโอเล็กๆในเมืองที่เดียวเท่านั้นที่ยอมให้เขานำเทคโนโลยี่มาใช้ในการ Recording ..เฮียแกบอกว่าช่วงเวลานั้นมีความฝันอย่างจริงจังว่าอยากจะเป็นโปรดิวเซอร์ทำเพลง..ช่วยคนอื่นๆทำเพลง โดยใส่ความเป็นตัวเขาลงไป..จากนั้นในปี 2006 เขาเริ่มปล่อยเพลงของตัวเองออกมา แต่ออกเป็นแนวเอาฮาซะมากกว่า มีชื่อซิงเกิ้ลว่า “This is the Hook” ทำร่วมกับ Steve Duda คู่หูนักออกแบบโปรแกรมของเขานั้นแหละ..โดยใช้ชื่อภายใต้ B.S.O.D (Blue Screen Of Death) หมายถึงซับนักคอม ที่ใช้เรียกในกรณี Windowของ PC แฮงค์นั้นเอง..ดูโอทั้งสองทำเพลงในแนว House ที่ใส่เสียงพูดดิจิตอลแบบคอมพิวเตอร์ลงไป เนื่องจากเป็นหนุ่มเนิร์ดกันทั้งคู่เลยพยายาม..หาสูตรในการทำเพลง House ซึ่งทำให้หงุดหงิดและรู้สึกอายๆกันเองที่ทำออกมาได้..แต่ในเวลานั้นทั้งสองคงไม่รู้หรอกว่า This is the Hook ดันติดชาร์จอันดับหนึ่งของ Beat Port Online ซะงั้น!! แต่เป็นที่น่าเสียดาย สำหรับทั้งคู่ที่อยากจะสานงาน B.S.O.D ต่อแต่ดันไส้แห้งหมดงบในการทำเพลงซะก่อน Steve Duda จึงขอตัวลากลับไปตายรังที่ L.A (แต่หลังจากนั้นต่อมาพวกเขายังคงทำงานจอยกันอยู่)

Joel Zimmerman และ Steve Duda ร่วมกันออกผลงานภายใต้ B.S.O.D (Blue Screen Of Death)

B.S.O.D - This is the Hook (Original Mix)

กลับมาบินเดี่ยวอีกครั้ง!!

หลังจากที่ Steve Duda ขอลากลับบ้านไป Zimmerman ก็เริ่มทำเพลงอย่างจริงจังคนเดียวอีกครั้งโดยปล่อยเพลงอย่าง Faxing Berlin และชื่อที่เขาใช้ครั้งนั้นก็คือ Deadmau5 นั้นเอง..แต่ใครจะเชื่อว่า ที่มาของชื่อนี้จะมากจาก ครั้งที่เฮียแกกำลังสนุกกับงานอดิเรกประกอบคอมพิวเตอร์อยู่นั้นดันเจอ “ซากหนูตาย” เข้าให้!!..จังหวะนั้นเลยปิ๊งไอเดียสำหรับฉายานี้ขึ้นมาเฉย!!..บวกกับสไตล์เด็กคอมที่ชอบสะกด Username แปลกๆ..ซึ่งนั้นเองคือที่มาของ Deadmau5!!..หลังจากซิงเกิ้ล Faxing Berlin เสร็จ..เฮียแกตัดสินใจส่งให้ DJ Chris Lake ดีเจชื่อดังจากอังกฤษ ซึ่งส่งเพลงนี้ไปต่อให้ Pete Tong (ดีเจของวิทยุ BBC) ได้ฟังและตัดสินใจ On Air เพลงนี้ให้..ซึ่งปรากฎว่า กลายเป็น Faxing Berlin นั้นดังแบบสุดๆ แถมถูกจัดให้ไปอยู่ในสุดยอดเพลงให้ปี 2007 อีกตั้งหาก ขนานนามถึงความฉลาดในการใส่คอร์ส Trance ผสมลงใน House Beat จนกลายเป็นต้นแบบของแนวนี้เฉยเลย!! “มันก็มึนๆเหมือนกันนะ..ที่รู้ว่าอยู่ๆผมกลายเป็นคนที่มีอิทธิผลต่อ Dance Music ซะงั้น” เขากล่าวพร้อมยิ้มแบบขำๆ

Pete Tong ดีเจ/พิธีกร บีบีซีเรดิโอวัน ประเทศอังกฤษ

การปรากฎตัวของ..ชายภาพใต้หน้ากากหนู!!

เพลงอย่าง “Not Exactly”..Sex,Lies,Audiotape”..และ “The Reward” ต่างโด่งดังตามมาเรื่อยๆ จากนั้นถึงคร่าวที่หนุ่มเนิร์ดอย่างแก จะหันมานึกถึงภาพลักษณ์ของตัวเองซะหน่อย.. แกนำส่วนหนึ่งที่อยู่ในโลโก้ Deadmau5ของแกมา ขึ้นรูปเป็นหัวหนูและหูที่ใหญ่ยักษ์!! เมื่อฉุดไอเดียของตัวเองไม่อยู่แล้ว เฮียแกจึงรีบติดต่อบริษัททำงานพรอพ สำหรับภาพยนต์ในโตรอนโต้..จากนั้นก็ถึงคราวใช้งาน โดยเริ่มประเดิมในคลับ เมือง Halifx ของรัฐ Nova Scotia ประเทศแคนนาดา ซึ่งทำให้เหล่าคนดูถึงกลับอึ่ง!! กับการปรากฎโฉมของ Deadmau5 ครั้งแรก “ผมจำครั้งนั้นได้..ตอนมองคนดูลอดผ่านช่องของหน้ากาก..พวกเขาถึงกับแสดงอาการงงเลยทีเดียว” เขากล่าว “ ทุกสายตาที่มองผม..แบบประมาณว่า..นั้นมันใครกัน??..เอาจริงเหรอนั้น?!?..แต่เมื่อ “แสงวาบ” ถูกเปิดออกมาจากหน้ากากนี้ในจังหวะเดียวกันกับบีทที่เล่นอยู่ เท่านั้นแหละ..คลับนั้นถึงกับมันส์แบบหลุดโลกไปเลย!!” สำหรับก่อนหน้านี้ใครๆก็บอกว่า ดนตรี Dance Music นั้นมักขาดสีสันในโชว์..แต่ไม่ใช่กับ Zimmermanคนนี้..จะบอกว่าถึงกับกลบ DaftPunk ไปเลย เมื่อเจอกับ Deadmau5 !!

ภายในหน้ากากของ Deadmau5 ที่เต็มไปด้วยแผงวงจรควบคุมระบบไฟ

เมื่อผลงานโดดเด่น..ผลรางวัลย่อมตามมาอย่างปฏิเสธไม่ได้

ถือว่าประสบความสำเร็จในบ้านเกิดของตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะเขาได้รับรางวัล Juno Award ของแคนนาดาถึง 4 ปีติดกัน ในสาขา Dance Recording ชนะรางวัล International Dance Music Awards และยังถูกเสนอชื่อเข้าชิง Grammy Award ในอีกหลายๆครั้ง ซึ่งยังไม่รวมถึงการถูกเสนอชื่อชิงรางวัลต่างมากมายอาทิ MTV Music Award...Billboard Music Awards และกระทั่ง World Music Awardsอีกตั้งหาก ..ในเรื่องการโชว์อ๊อฟนั้นปี 2012 Deadmau5 ได้เป็นศิลปินเปิดตัวในงานประกาศรางวัล Award telecast คู่กับวงดังอย่าง Foo Fightersซะด้วย..นอกจากได้กล่องแล้วยังมีเรื่อง รายได้จากยอดขายของอัลบั้มที่ขายได้เกินกว่า 120,000 ก๊อปปี้ นี่ยังไม่นับการทัวร์อีกหลายๆที่ทำเงินให้เขาอีก "เป็นกอบเป็นกำ" เลยทีเดียว!!