Tip: วิธีการป้องกันข้อมูลบนเครื่อง Mac เพื่อไม่ให้โดนแฮ๊ค
จากบทความเรื่อง การบายพาสและรีเซ็ท Password บน iMac และ MacBook ในตอนที่แล้ว ทำให้เราทราบว่าใครๆก็สามารถมา Login ที่เครื่องเราได้อย่างง่ายดาย บทความนี้เรามีทางแก้และป้องกันครับ เราขอแบ่งวิธีการป้องกันออกไปเป็นสองรูปแบบ แบบแรกคือใช้ Software และแบบที่สองคือใช้ Hardware ในการป้องกัน ทั้งสองวิธีไม่จำเป็นต้อง Download หรือหาอะไรมาเพิ่มครับ บนเครื่อง Mac ของเรามีมาให้อยู่แล้ว
แบบ Software เราเรียกโปรแกรมนี้ว่า FileVault ส่วนแบบ Hardware นั้นขอเรียกว่า Firmware Password ที่เราสามารถเรียกใช้ได้ใน Recovery Mode
FileVault Disk Encryption การทำงานนั้นก็คือ ตัวโปรแกรมจะทำการเข้ารหัส ดังนั้นคนที่ไม่รู้วิธีการถอดรหัสก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของเราได้
วิธีการนั้นเราเริ่มได้ตามนี้ครับ Step 1. คลิ๊กไปที่ System Preferences -> Security & Privacy -> FileVault Tab Step 2. คลิ๊ก Lock มุมซ้ายล่าง ใส่ชื่อ Username และ Password Step 3. คลิ๊ก Turn On FileVault
เพียงเท่านี้มูลของเราก็จะปลอดภัยครับ หลังจากทำตามสามขั้นตอนนี้เสร็จเราจะได้ Recovery Key คล้ายกับกุญแจตู้เซพเราสวามารถให้ Apple จัดเก็บ Keyให้เราได้ เวลาจะใช้จะมีขั้นตอนการถาม Security Question ประมาณ3คำถาม เพื่อที่จะเอา Recovery มาใช้ หลังจากที่เรา Restart เครื่อง Data ของเราทั้งหมดจะถูกจัดเก็บใน FileVault และโปรแกรมนี้จะ Run แบบ Background Mode ไว้ตลอดครับ วิธีแรกนั้น ถ้าขโมยนำเครื่องเราไปใช้ถึงแม้ว่าจะเข้าถึงข้อมูลเราไม่ได้แต่ ก็ยังสามารถเลือก Format เครื่องและใช้งานเครื่องนั้นได้เลย วิธีที่สองนี้ถึงแม้ว่าใครจะขโมยเครื่องเราไปก็เอาไปใช้ไม่ได้อีกเลยครับ ถึงแม้ว่าจะพยายาม Format ก็ทำไม่ได้ วิธีนี้เรียกว่า Firmware Password
Firmware Password
พูดง่ายๆนั้นก็คือวิธีตั้ง Password ใน Recovery Mode กันใครเอาไปใช้ไม่รู้ Password นี้ก็โยนเครื่องทิ้งได้เลย
วิธีการมีดังนี้ Step 1. Restart เครื่องและเข้าสู่ Recovery Mode โดยการกด Cmmand + R ค้างไว้จนเห็นโลโก้ Apple ขึ้น Step 2. เลือกไปที่ Utilities -> Firmware Password Utility Step 3. คลิ๊ก Turn On Firmware Password และใส่ Password ของเราเข้าไป -> คลิ๊ก Set Password Step 4. ปิดโปรแกรม Firmware Password Utility และ Restart
ข้อควระระวังนั้นคือห้ามทำ Password ตัวนี้หายครับ ถ้าหายนั้นไม่มีใครแก้ได้ต้องส่งที่ศูนย์ Apple เท่านั้นครับ
ลองเอาไปใช้กันดูในการป้องกันข้อมูล เพลง หรืองานของเราดูนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลเทคนิคดีๆจาก CNET