ว่าด้วยเรื่องของการตั้ง "ชื่อดีเจ" (ภาคขมวดปม)

สำหรับใครที่ได้อ่านโพสท์ก่อนหน้าและลองตั้งชื่อดูโดยยึดตามกฎที่ให้ไว้..จนเราได้ชื่อที่ค่อนข้างจะโดนใจแล้ว แต่ก็อาจจะเกิดความกังวลขึ้นมาอีกว่า มันจะใช้ได้มั้ย หรือมันจะมีปัญหาอีกมั้ย วันนี้เราลองมาดูกันว่าเราจะทำอย่างไรกันต่อไป หรือถ้าคุณเคยตั้งชื่อไว้แล้วหรือมีชื่อในวงการอยู่แล้ว..และกำลังคิดว่ามันจะเป็นปัญหาหรือไม่ โพทส์นี้มีคำตอบให้คุณครับ

1.กลไกการทำงานของ"ชื่อ" ที่ส่งผลต่อเรา

อะไรกันแน่ที่ทำให้ชื่อแปลกๆอย่าง “Snoop Dogg” ถึงโดนใจเรา.. จะออกแปลกๆมั้ยถ้าเป็น “Snoop Lion”เมื่อที่เพิ่งเปลี่ยนไปใช้ล่ะ!?! ลองนึกถึงหน้าเฮียแกดู..สไตล์ดนตรีและน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงบุคลิก...ลองนึกถึงประสพการณ์ที่เราเคยเสพเพลงของเฮียแก..หลับตาและใส่ความรู้สึกลงไปกับผลงานที่ผ่านๆมาของ Snoop Dogg!! โย่วๆๆ..มีใครนึกถึงสนูปปี้บ้างรึเปล่า มีภาพหมาน้อยนอนแหงนอยู่บนบ้านหมารึเปล่า?..ผมว่าไม่นะ!!

ลองดูอีกสักชื่อก็ได้อย่าง วง “The Beatles” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าวงนี้ดังขนาดไหน แต่มาวิเคราะห์กันดีๆ...คำว่า “แมลงเต่าทอง” ก็ไม่ใช่เป็นแมลงเท่ๆซะหน่อย!?! (อาจใช้คำว่า “แมลงน่ารัก” ได้ในสายเด็กและกีฏวิทยา) แต่ถึงอย่างไรชื่อเชยๆอย่างแมลงเต่าทองนี้..จะส่งผลให้ความเพลิดเพลินต่อเพลงบีทเทิลลดลงรึเปล่า? กระทบต่ออิทธิพลตลอดการของวงนี้รึเปล่า?...คำตอบคือไม่เกี่ยวกันเลยแม้แต่น้อย!! “ชื่อ..นั้นมันเป็นเหมือนการสร้างพื้นที่สำหรับบันทึกความทรงจำและความรู้สึกของเราต่อศิลปินนั้นๆ" หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าคุณได้หลงรักศิลปินสักคนหนึ่ง.. ผลงานของศิลปินคนนั้นที่มีต่อความรู้สึกเรา ถูกแบกเอาไว้ด้วย “ชื่อ” นี่ล่ะ

2.หรือก็ใช้มันไปนั้นแหละ (ถ้าไม่โดนโจมตี หรือมีดราม่า)

จริงแล้วเราสนับสนุนลองหยิบมาสักชื่อ หรือยืนหยัดในชื่อที่มีอยู่แล้ว..และใช้มัน..อยู่กับมันไป ...คอยดูมันไปจนถึงที่สุดของเส้นทางศิลปินของคุณ..แต่ตราบเท่าที่ชื่อนี้ไม่ถูกใครโจมตี!!..และชื่อนี้ไม่ได้มีความหมายสองแง่สองง่ามหรือแย่ๆในภาษาอื่น สำหรับข้อสุดท้ายนี่ต้องใส่ใจกันนิดนึง..ผมรับประกันว่าไม่ถูกเขวี้ยงขวดขึ้นมาบนเวทีแน่เวลาคุณไปเล่นที่ประเทศอื่น(เพราะคำที่คุณเลือกนั้นมันเลวร้ายมากในบ้านเขา)

มีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงคือศิลปิน 2Chainz เขาเคยใช้ชื่อว่า Tity Boi

มาก่อน (Tity คล้ายกับ Tits ที่แปลว่าหน้าอกผู้หญิง) แต่มีสักกี่คนจะรู้ว่า คำนี้คือศัพท์แสลงตอนใต้ของอเมริกา Tity​ Boi หมายถึง Mama’s boy และมันไม่ใช่คำที่เลวร้ายเลย แถมมันออกจะดูน่ารักซะด้วยซ้ำถ้าคุณรู้ความหมายของมัน..แต่ที่แน่ๆเมื่อชื่อนี้ถูกออกอากาศทางสถานีวิทยุ หรือขนาดเจ้าของงานที่เขาไปโชว์หรือกระทั่งนิตยสาร คงไม่เห็นด้วยกับ

Tity Boi..พอเฮียแกมาเปลี่ยนเป็น“2Chainz”ก็ฟังดูระรื่นหูกว่าเยอะเลย!!

3. กู(เกิ้ล)นั้น..สำคัญไฉน

การเสิร์ชหาชื่อในกูเกิ้ลนั้น กลายมาเป็นหนทางเยี่ยมยอดที่จะหลบเลี่ยงปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับ “ชื่อ” ที่เราเลือกใช้ และมันง่ายมากๆในการใช้หาชื่อ..คือเอาเป็นว่าถ้าขนาดกูเกิ้ลยังปฎิเสธคำค้นของคุณ รับรองเป็นชื่อที่คนอื่นก็จะไม่เห็นมันเหมือนกัน..เพราะฉนั้นเลือกชื่อที่ง่ายต่อการหาเจอในกูเกิ้ลซะ...แต่ก็อย่าให้มันง่ายจนเกินไปนะ!! ทำไมนะหรือครับ!ย่ิงถ้าเรารู้จักการตลาด แบบ SEOของกูเกิ้ลก็จะรู้ว่ามันสำคัญมากต่ออนาคตของเราในโลกออนไลน์ ...

ผมจะยกตัวอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างจะแย่ต่อ SEOให้ดู

..เรื่องของเรื่องคือมีชายคนหนึ่งในลอนดอน ซึ่งนายคนนี้ถือว่าเป็นเทพของ House Musicเลยหล่ะ..แต่เขาดันใช้ชื่อว่า “Apple”!!!… คุณลองหาชื่อของนายคนนี้ในกูเกิ้ลดูสิ จะบอกว่ายากสุดๆลองดูก็ได้ ถ้าคุณเสิร์ซ Apple Music..คุณจะเจอ iTunesและiPod หรือถ้าลอง Apple London..คุณจะเจอ ร้านApple Storeในลอนดอน หรือลองยาวๆหน่อยแบบ Apple House Music ละ่…คุณยิ่งไปกันใหญ่เลย....เอาเป็นว่าถ้าอยากจะฟัง House Music ของนาย Appleนี่ละก็ ผมต้องให้คุณพิมพ์ประมาณ Apple UK Funky House Producer… พอจะเห็นตัวอย่างของเรื่องนี้แล้วนะครับ

ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญใน Googleคือ เราจะรู้ว่าชื่อเราที่เลือกใช้นั้น ซ้ำกับใครไปรึยัง??

บอกเลยว่าถึงแม้ชื่อที่เราตั้งจะออกมีเอกลักษณ์ซะขนาดไหนก็ตาม..คุณอาจจะตกใจว่ามีอีกหลายๆคนเลือกใช้ชื่อนี่ไปซะแล้ว..และแน่นอนแหละใครจะอยากมีชื่อโหล..แต่เราก็ไม่อยากให้คุณลงเอยเหมือนกับ หนุ่มแร๊พเปอร์ที่ชื่อว่า Commonคนนี้..เรื่องของเรื่องคือ เขาเคยใช้ชื่อในวงการว่า Common Sense มาสักระยะ แต่ดันไปซ้ำกับวงดนตรีที่ดังมาก่อนหน้าและใช้ชื่อว่า Common Sense!?! และแน่นอนเขาโดนไล่ให้ไปเปลี่ยนชื่อ..เฮียแกจึงตัด Senseออก ไม่งั้นถูกฟ้อง!! ตัวอย่างคล้ายๆกันนี้ ก็คือ Santigold ซึ่งก่อนหน้าชื่อ Santogold โดนเปลี่ยนเหมือนกัน (แต่เจ๊แกแนว เอาชื่อคล้ายเดิม ปรับเปลี่ยนสระนิดหน่อย) วิธีปรับตัวสะกดก็ไม่เลวนะ

Cr-To-Dubspot.com